South of the Border, West of the Sun
South of the Border, West of the Sun
การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก
Haruki Murakami
การปรากฏตัวของหนังสือเล่มหนึ่ง
ฉันพบหนังสือเล่มนี้ในห้องสมุดมารวยในคืนวันอังคารที่ฝนไม่ได้ตก หน้าปกมันแปลกมากจนฉันอดใจไม่ไหวขอยืมไปอ่านอีกเล่ม และนั่นคือการปรากฏตัวของหนังสือเล่มนี้ในชีวิตของฉัน
สไตล์การเล่าเรื่องแบบมูราคามิมีเสน่ห์อย่างหาเหตุผลไม่ได้ ฉันเปิดอ่านและรู้แต่ว่าจะต้องอ่านมันต่อไป ต่อไป และต่อไป ฉันอ่านมันในค่ำคืนหลังกลับจากที่ทำงาน บนรถเมล์เช้าและเย็น ขณะที่ยืนรอรถ ปัจฉิมบทของมันฉันอ่านในตอนเช้า ระหว่างเดินเท้าไปสู่ห้องทำงาน และในที่สุด ตอนจบแทรกซึมเข้าสู่สมองของฉันบนโต๊ะทำงาน ก่อนชั่วโมงราชการเล็กน้อย
เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ฉันอ่าน 2-3 หน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ ทิ้งไว้ซึ่งแรงกระเทือนอย่างแรงในตัวฉัน ฉันอึ้ง ฉันนิ่ง ฉันไม่สามารถเริ่มทำงานอย่างปกติได้ พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานไม่ออก ฉันได้แต่คิด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ประสบเหตุการณ์เยี่ยงนี้ ช่างน่าอัศจรรย์
South of the Border, West of the Sun
ชื่อเรื่องในภาษาไทยไม่เลว แต่ฉันว่ามันบรรยายสิ่งที่ผู้เขียนต้องการสื่อได้ไม่ดีเท่าชื่อต้นฉบับนะ (国境の南、太陽の西 Kokkyō no minami, taiyō no nishi) หรือจะเพราะคนแปลเป็นไทยรู้ดีว่า แปลยังไงก็ไม่สามารถถ่ายทอดนัยของชื่อเรื่องต้นฉบับมาเป็นภาษาไทยที่กินใจและฟังดูดีได้ เลยตัดสินใจใช้ชื่อไปอีกแนวหนึ่งไปเลย …ไม่รู้
“ทางใต้ของชายแดน ตะวันตกของดวงอาทิตย์” ในการตีความของฉัน หมายถึงสิ่งที่เราไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนและไม่มีวันไปถึง ได้แต่นั่งจินตนาการไปเองว่า มันน่าจะเป็นอย่างไร
โอเค ต่อไปนี้จะมีการสปอย ผู้ไม่เคยอ่านโปรดหยุด หากไม่อยากเสียอัตถรสในการอ่านหนังสือเล่มนี้ในอนาคตด้วยตัวเอง
ชิมาโมโตะ ก็คือ “ทางใต้ของชายแดน ตะวันตกของดวงอาทิตย์” สำหรับฮาจิเมะ ตัวเอกของเรื่อง เธอคือความรักในวัยเด็กที่ขาดหายไป คือความลึกลับที่เขาไม่เคยได้ค้นพบที่มา คือตัวกระตุ้นให้เขาละทิ้งชีวิตที่อบอุ่นและออกไปค้นหา “ทางใต้ของชายแดน ตะวันตกของดวงอาทิตย์” ให้พบด้วยตัวเขาเอง
แต่ชิมาโมโตะ ก็ยังคงเป็น “ทางใต้ของชายแดน ตะวันตกของดวงอาทิตย์” สำหรับฮาจิเมะไปจนตลอดชีวิต กล่าวคือ แม้เขาจะตัดสินใจละทิ้งชีวิตที่สุขสงบของเขาเพื่อเธอ แต่เธอก็หายตัวไปในเช้าวันต่อมา ทิ้งไว้แต่เพียงปริศนามากมายเกี่ยวกับตัวตนของเธอ ฮาจิเมะไม่เคยได้ไปถึงดินแดนลึกลับที่เขาฝันไว้ลึก ๆ
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่อาจกลับคืนสู่เส้นทางปกติอีกต่อไปได้ นี่อาจจะฟังดูเหมือนตอนจบที่เศร้า แต่ยัง เรื่องยังไม่จบ เพราะในท้ายที่สุด ฮาจิเมะก็ได้เจอดินแดนอีกแห่ง ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คือสิ่งที่เขามีอยู่แล้ว แต่เขาได้เห็นมันด้วยมุมมองใหม่ ภายหลังผ่านพ้นเรื่องราวต่าง ๆ และคิดได้
เป็นตอนจบที่ประทับใจ และอธิบายความจริงอันเรียบง่ายของชีวิตที่หลายคนมักหลงลืมไปได้ สุดท้าย… ทุกอย่างก็จบลงเมื่อเราคิดได้ว่า “พอ”
เมื่อพอ ก็จบ
ฉันไม่รู้ว่ามูราคามิหมายความอย่างนี้หรือเปล่า ฉันอาจจะตีความไม่ตรงกับใคร แต่นี่คือบทสรุปที่ฉันได้รับจากหนังสือเล่มนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าได้อ่านอีกสักรอบสองรอบจะมีอะไรเปลี่ยนหรือไม่
สรุปสั้น ๆ ชอบ ประทับใจ และสร้างความสะเทือนอย่างแรง